วันอาทิตย์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

MODULE 1 ก้าวสู่ที่ปรึกษาการเงิน

 Module 1

 อาชีพที่ปรึกษาการเงินคืออะไร ทำไมต้องมีที่ปรึกษาการเงิน
  ก่อนอื่นเรามารู้เรื่องเงินๆ กันก่อน

                          


1. คนเราอยู่กับเงินตั้งแต่เกิดจนตาย  จะเห็นได้ว่าชีวิตประจำวัน ตั้งแต่ตื่นขึ้นมา เปิดไฟ เปิดก็อกน้ำ เปิดเตาแกส ทำอาหาร เสื้อผ้า รองเท้า รถไปทำงาน เรียนหนังสือ ล้วนใช้เงินทั้งสิ้น หรือใครว่าไม่จริง ถามว่าคุณรู้เรื่องการเงินไหม
             กับคำว่า หาเงินเก่ง  ใช้เงินเป็น  เก็บเงินอยู่  รู้ช่องลงทุน 

2. เรื่องการเงินมันเปลี่ยนแปลงไปมาก แต่ก่อนสมัยเมื่อ 20ปีที่แล้ว แค่ฝากธนาคารยังได้ดอก 13% แล้ว สินค้าการเงินอื่นๆ ไม่ได้ครึ่ง แต่ระยะหลังๆ อะไร มันก็เปลี่ยน คนที่มีเงินไว้ที่เดียวก็มีความเสี่ยง ปัจจุบัน ดอกเบี้ยธนาคาร 1.5% แต่คนไม่รู้การเงินไม่มีทางเลือก ธนาคารก็ยังเป็นที่พึ่ง ตลาดหุ้น ก็ขึ้นแรงลงแรง เศรษฐกิจล่มสลายก็มี  คนที่มีโอกาสดีๆ มีความรู้เรื่องการเงิน จึงจะประสบความสำเร็จหรือมีอิสระภาพด้านการเงิน ที่ผู้คนแสวงหา
  ถามว่า คนที่มีอิสระทางด้านการเงิน เขาทำอย่างไร กับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ ทำไมเก่งจัง
3. กฎหมายบ้านเมือง เปลี่ยนแปลงไป เพราะรัฐบาลและธนาคารแห่งประเทศไทย ต้องรักษาระบบเงินให้มีเสถียรภาพ ถ้าเงินขาด ก็ออกพันธบัตรออกมาขายจูงใจให้ประชาชนซื้อ พันธบัตรรัฐบาล 50 ปี ยังให้ดอกเบี้ย 4.6% คนยังแห่กันซื้อ หรือออกกฎหมายเก็บภาษีอากร เพิ่ม โดยเฉพาะ ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ขอเอาเฉยๆ ในแต่ละปี มีผู้ที่ไม่รักษาสิทธิหรือความรู้เรื่องภาษีน้อย จะตกเป็นผู้แพ้เสมอๆ

ถามว่า ทุกปีคุณยื่นภาษีด้วยตัวเองไหม หรือยื่นเป็นไหม
4. เทคโลโลยี มันทำให้เรื่องการเงินแปรผันไปตามยุคสมัย  เดี๋ยวนี้ คนหาเงินได้ง่ายเหมือนรูดใบไม้ แต่จะมีสักกี่คนที่รู้เรื่องการเงิน โดยเฉพาะธุรกิจต่างๆ ที่ทำรายได้แต่ละช่วงวัฏจักรเศรษฐกิจ หรือแม้แต่คนที่ล้มลง เพราะบริหารการเงินแบบประมาท ไม่อยากบอกว่าไม่เป็น
   เทคโนโลยีข้ามโลกในปัจจุบันภายใน 5 วินาทีก็รู้กันทั่วโลก อุปกรณ์ ไฮเทคเต็มไปหมด และเราจำเป็นต้องใช้มันด้วย บิล เกตส์ บอกว่า ธุรกิจที่ทำ of line อย่างเดียวจะค่อยๆ สลายไปจากโลก ภายใน 5 ปี
  ถามว่าวันนี้ คุณใช้เทคโนโลยี่ มาก่อให้เกิดรายได้กับคุณมากแค่ไหน

5. อัตราเงินเฟ้อ หรือ Inflation ต้นเหตุที่แท้จริงสำหรับนักวางแผนการเงินหรือที่ปรึกษาการเงิน ต้องจำใส่สมองเลยว่า ถ้าไม่รู้สิ่งนี้ คุณจะไปไม่เป็นเลย 
  ยกตัวอย่าง เมื่อ 20 ปีที่แล้ว เรากินก๋วยเตี๋ยวชามละ 15 บาท ผ่านมา 20 ปี ถามว่าตอนนี้ราคาก๋วยเตี๋ยวชามละ เท่าไร  40 บาท แล้วถ้าเอาเงิน 15 บาท สมัยโน้นเก็บใส่ใหไว้ ผ่านมา 20 ปี แคะเอาเงินจากไหมาซื้อ ก๋วยเตี๋ยวได้ชามหนึ่งไหม ตอบว่า ไม่ได้ ตกลงว่าสินค้ามันแพงขึ้นหรือค่าเงินมันลดลงกันแน่
ที่ปรึกษาการเงินต้องอธิบาย

นี่คือเรื่องการเงินหลักๆ ที่มีผลต่อการเงินของประเทศไทย คนไทย และในโรงเรียนก็ไม่เคยสอนเรื่องการเงินสมัยใหม่ หน้าที่ที่ปรึกษาการเงิน คือให้คำปรึกษาว่า
              ลูกค้าควรวางแผนการเงินอย่างไร แต่ละช่วงชีวิตต้องทำไง สินค้าทางการเงินต้องใช้อะไรบ้าง

                                    เพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางการเงิน 
                                                                  ย้ำอีกครั้งว่า  
                      เพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางการเงิน




                                   งานการให้คำปรึกษาด้านการเงิน

  1. ช่วยสร้างหรือกำหนดเป้าหมายทางการเงิน (Wealth Creation) หรือการสร้างความมั่งคั่ง
       ลูกค้าส่วนใหญ่เวลาเราถามว่าว่ามีเป้าหมายทางการเงินอย่างไร จะงงๆ เราต้องแยกประเด็นช่วยให้แนวคืดเขา ว่า ควรต้องทำอย่างไร

        เช่น ตั้งใจจะให้ลูกเรียนถึงชั้นไหนครับ ในหรือต่างประเทศ

               ตั้งใจว่า ตอนเกษียณ อยากจะใช้ตังค์ เท่าไหร่ดีครับ เอาแบบปัจจุบัน ที่แบบอยู่สบายๆ ไม่มีหนี้สิน ดูแลลูกหลาน ไปทำบุญ ท่องเที่ยว
              ตั้งใจว่าจะหาทรัพย์สมบัติอะไรบ้างไว้เป็นมรดกให้ลูกหลาน
              ตั้งใจว่าจะซื้อบ้านใหม่ คอนโดใหม่ ที่ดินใหม่ ต่อเติมบ้านใหม่ ยังไงบ้าง
              ตั้งใจว่าจะซื้อรถคันใหม่ ยังไงไหม
              ตั้งใจว่าจะแต่งงาน ตอนไหน มีลูกตอนไหน
              ตั้งใจว่า จะพาครอบครัวไปเที่ยวที่ไหนบ้าง
        
                               เขาบอกอะไรมาต้องเขียนลง



นี่คือปิรามิดการวางแผนการเงินสมัยใหม่ 
ใครไม่รู้เชยมาก ปิรามิดในอียิปต์ เป็นฐานสามเหลี่ยมหลายพันปี ไม่เคยพัง 
ฐานของปิรามิดจะใหญ่ และมียอดต่อขึ้นไปรวม 3 แถว
ฐานล่างสุด 

เป็นที่รวมของความรักความรับผิดชอบ ต่อตนเอง ต่อหน้าที่การงาน ต่อครอบครัวอันเป็นที่รัก ต่อธุรกิจที่สร้างมา และต้องรักษาไว้ .....แล้วไง ?
ง่ายๆ มันคือทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นเรา 
แล้ว....ต้องทำไง....?
เราต้องปกป้องสิ่งที่เรามี เราสร้างมา แต่เราจะใช้วิธีไหน เพื่อปกป้องให้ดีที่สุด 
การปกป้องที่ดีที่สุด ง่ายที่สุด ทรงประสิทธิภาพมากที่สุด คือ การโอนความเสี่ยง
แล้วโอนยังไง....?
ง่ายสุด ทรงประสิทธิภาพสุด ประหยัดสุด คือ การทำประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ค่ารักษาพยาบาล อุบัติเหตุ ประกันบ้าน ประกันรถ ประกันทุพพลภาพ ประกันโรคร้ายแรง 
ตัวชี้วัดคือ.....?
มากพอ หรือ เพียงพอ......?
แค่ไหน เท่าไร คือเพียงพอ....ที่ปรึกษาการเงิน จะเป็นคนคิดคำนวณให้...
และที่สำคัญ ต้องเก็บไว้เผื่อฉุกเฉิน 3-6 เท่า ด้วย .... มีกันไหม ?
นี่คือ ฐานปกป้องจากการสร้างเป้าหมายสำคัญๆนั้นแล้ว
หรือที่เรียกว่า Wealth Protection 

เมื่อปกป้องเรียบร้อยแล้วจึงจะไปต่อที่ฐานสูงขึ้นไปอีก
เรียกว่าฐานสะสมทรัพย์ หรือ Wealth Accumulation
ซื่งฐานนี้เกี่ยวข้องกับเป้าหมายสำคัญ ได้แก่
กองทุนการศึกษาบุตร ( Education Plan ) 

                                                   

ต้องระบุเป้าหมายที่ชัดเจนว่าจะให้ลูกเรียนระดับไหน ต้องใช้จ่ายปีละเท่าไร เป็น serious money ที่คนเป็นพ่อแม่จำเป็นต้องมี จำเป็นต้องใช้ เตรียมไว้ก็ได้ใช้ ไม่เตรียมก็ได้ใช้เหมือนเดิม คนที่มีลูก พอจะเข้าเรียน บอกว่า ไม่มีตังค์ ถือว่า ขาดความรับผิดชอบอย่างแรง
แล้วต้องเตรียมเท่าไร.....?
เตรียมยังไง....?
ต้องใช้เงินเยอะหรือเปล่า....?
เป็นหน้าที่ ที่ปรึกษาการเงินต้องไปทำแผนมาครับ

และตัวที่สองที่ลืมไม่ได้คือ กองทุนเกษียณอายุ (Retirement Plan)

ต้องมีตัวเลขที่ชัดเจน 
ชัดเจนยังไง..?
เราต้องมีเครื่องมือที่มาสนับสนุน คำนวณออกมาเป็นตัวเลขที่ชัดเจน
แลัวต้องทำไง...?
เป็นหน้าที่ ที่ปรึกษาต้องทำแผนให้...
OK ไหมครับ 

ฐานบนสุด คือฐาน INVESTMENT หรือฐานลงทุน
ฐานนี้เรียกว่า Life Style ของใครของมัน แต่ฐานล่างต้องเรียบร้อยก่อน คือขั้นบันใด คนส่วนใหญ่ เมื่อได้เงินมาคิดแต่จะลงทุน โดยที่ฐานล่างไม่มั่นคง ลองดูรูปนี้

ตอนที่ขาดทุน หรือ ขาดสภาพคล่อง อะไรจะเกิดขึ้นครับ เมื่อฐานข้างบนมันพังลงมา ครอบครัวจะเป็นยังไง ที่ปรึกษาการเงิน ที่
     มุ่งลงทุนช่วยลูกค้าเพียงอย่างเดียว โดยที่ไม่ดูฐานล่างเป็นที่ปรึกษาการเงินที่ขาดความรับผิดชอบอย่างแรง
   ฐานการลงทุน เป็นส่วนสำคัญที่ไม่สามารถมองข้ามได้ เพราะสินทรัพย์ที่จะเติบโต ต้องผ่านระบบการลงทุนที่เอาชนะอัตราเงินเฟ้อให้มากที่สุด ภายใต้ข้อจำกัด ตามความเสี่ยงที่ลูกค้าจะรับได้
จะเห็นได้ว่า
           คำเตือน  การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้ดี ก่อนตัดสินใจลงทุน
                        ความเสี่ยงสูง ผลตอบแทนสูง   Hight Risk Hight Return
แต่คำดังกล่าวมันล้าสมัยไปแล้ว เพราะคำใหม่คือ
  Hight Understanding Hight Return ต่างหาก
การลงทุนให้ซื้อตอนถูก และขายตอนแพง
จะรู้ได้ยังไงว่า แพงตอนไหน....? ถูกตอนไหน....?

ซึ่งการลงทุน มีทั้งในหุ้น และกองทุนรวม
การลงทุนทุกชนิดไม่ใช่สักแต่ว่า ซื้อเลย หรือซื้อตามเขา โดยไม่รู้ ปัจจัยต่างๆ ทั้งปัจจัยพื้นฐาน ปัจจัยทางเทคนิค เห็นเห่อกันซื้อ แล้วไง......
       หุ้น ให้ซื้อตอนถูก และขายตอนแพง นักเล่นหุ้นที่ทำกำไรระยะสั้น หรือพวก daytrade ก็สามารถทำกำไรได้ รวยได้แค่ข้ามคืนและหมดตัวได้แค่ข้ามวันเหมือนกัน
           แต่ที่ปรึกษาการเงินเน้น การสร้างผลตอบแทนระยะยาว 7ปี 10ปี คือพวก VI (Value invester)
แต่ถ้าเราไม่ถนัด ไม่ได้เรียนรู้ อย่าพยายามไปไกล้
ส่วนที่แนะนำคือ กองทุนรวม หรือ Mutual Fund
กองทุนรวมพวกนี้ก็แบ่งได้หลายแบบหลายชนิด ที่น่าลงทุนคือ แต่ละกองทุนจะรวมเอาหุ้นหลายๆตัวมารวมใส่กันไว้ เช่น กองทุน ABSM ของ Aberdeen ในกองเดียวมีทั้งหุ้นบิ๊กซี ช่องสาม กระเบื้องไดนาสตี้ กรุงเทพประกันภ้ย ถ้าช่องสามเจ๊งก็จะเหลือบิ๊กซี ถ้าบิ๊กซีเจ๊งก็จะเหลือ อีออน ประมาณนี้ ดังนั้นการซื้อกองทุนก็เหมือนซื้อหุ้น แต่ เซฟกว่า และที่สำคัญสุด มีคนคอยดูให้ เรียกว่า ผจก กองทุน
     การจัดทรัพย์สินที่ลงทุน ที่เรียกว่า Asset Allocation เป็นการจัด port ให้ทรัพย์สินเรากระจายอยู่ในหลายๆที่ คนละประเภท คนละความเสี่ยง

ปัจจัยที่ จะส่งเสริมให้ประสบความสำเร็จ 95% เป็นผลมาจากการทำ Asset Allocation 
และต้องใช้ระยะเวลา ตามรอบ เช่น 5 ปี 10 ปี 
สรุปคือที่ปรึกษา ต้องช่วยลูกค้าจัด Port Folio ในการลงทุน เพื่อให้เงินเติบโต 
แล้วต้องจัดย้งไง.....?
เอาหลักทรัพย์หรือกองทุนอะไร ผสมกับอะไร...?
คาดหวังผลตอบแทนเท่าไร.....?
ที่ปรึกษาต้องจัดมาให้ 
ถามว่ายากไหม....?
ตอบว่า ยากเหมือนกัน ถ้ามันง่าย ป่านนี้คนไทยรวยกันถ้วนหน้าแล้ว
แต่....ผมมีโปรแกรม Wealthplus พร้อมสอนและง่ายเกินจินตนาการ

สุดท้าย คือการส่งต่อความมั่งคั่ง ไปยังลูกหลาน
หรือ Wealth Distribution 
ได้แก่การทำพินัยกรรม ส่งมรดก ส่งต่อความมั่งคั่ง ประมาลจากทรัพย์สิน เปรียบเทียบกฎหมาย ซึ่งถ้าไม่มีเงินเสียภาษี สรรพากรจะยึดทรัพย์สินนั้นไว้ แล้วเอาออกขายทอดตลาด เอาเงินไปเสียภาษี ส่วนที่เหลือจึงจะเอามาจ่ายให้ทายาท ซึ่งในต่างประเทศที่มีภาษีมรดกสูงๆ ทายาทจะไม่รับ เนื่องจากไม่มีเงินไปจ่ายภาษี
จะดีไหม ทรัพย์สินที่เราอุตส่าห์สร้างมา เราต้องปกป้องมันไว้ให้ลูกหลาน ด้วยการสร้างเงินค่าภาษีมรดก เตรียมไว้จ่ายให้สรรพากร ไม่ให้ลำบากไปยังลูกหลาน

นั่นคือปิรามิดวางแผนทางการเงิน
แต่....มีอีกส่วนหนึ่งที่ติดสอยห้อยตามปิรามิด
ไม่เคยห่าง แม้ไม่ได้เชิญ ก็ยังมาขอส่วนแบ่งจากรายได้ทุกขั้นตอน นั่นคือ ภาษี
ไม่ผิดครับ ชัดเจน
ภาษี.....ภาษี
TAX
TAX
คนที่ไม่รู้เรื่องภาษี จะตกเป็นผู้แพ้ตลอดชาติ
จำเป็นต้องช่วยลูกค้าบริหารภาษี เพื่อให้ประหยัดเงินค่าภาษี คือให้เสียน้อยที่สุด ที่ถูกต้องตามกฎหมาย
ไม่ใช่หลบเลี่ยงหรือหลีกเลี่ยงภาษี
แล้วคิดคำนวณยังไง.....?
มันง่ายมากครับ ถ้ารู้ Concept มัน แต่มันจะยากมาก ถ้าเราลองยื่นภาษีเอง โดยไม่เรียนรู้
แล้วใครสอน.....?
ผมอีกแหละครับ เคยชินกับการถูกปรับภาษีโดยไม่รู้ มาหลายแสนบาท
และมันจะกลายเป็นตำนานที่ใครมาเรียนรู้วิชานี้แล้ว สรรพากร กินเรายาก
มันอยู่ในโปรแกรม Wealthplus เรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องไปแสวงหาที่ใดอีก
อีกเรื่องที่สำคัญที่ต้องรู้
สิ่งที่คนรวยรู้ แต่คนทั่วไปไม่รู้

สิ่งมหัศจรรย์ อันดับ 8 ของโลก คือพลังของอัตราดอกเบี้ยทบต้น ของไอสไตน์
ตัวอย่างการออมเงิน 3 แบบ

นาย A ออมเงิน ปีละ 120,000 บาท ในกองทุนรวมที่ให้ผลตอบแทน 8% ต่อปี ออมไว้ 10 ปี แล้วหยุด ไปอีก 10 ปี ปลายทางปีที่ 20 ได้เงิน 4,053,292 บาท
นาย B  เป็นเพื่อนกัน ขอออมครึ่งหนึ่งของนาย A แต่ออมยาวไป 20 เลย ที่ผลตอบแทนเท่ากัน ปลายทางครบ 20 ปี ได้เงิน 2,965,375 บาท
นาย C บอกเพื่อนๆว่า ต่อให้ออมไปก่อน 10 ปี เดี๋ยวค่อยออม แต่จะจ่ายเลย 2 เท่าของ A เลยนะปีละ 240,000 บาท ปลายทางได้เงิน 3,754,917 บาท 
    คำถามว่า  ทำไม...?     ทำไม....?  และ  ทำไม....เป็นแบบนี้ 
    คำตอบ คือ ก็เพราะพลังของอัตราดอกเบี้ยทบต้น ที่เงินก้อนใหญ่ ทำงานก่อน จะได้ประโยชน์ กว่าเงินก้อนออมทีละเล็กละน้อย  หรือได้ประโยชน์ กว่าคนที่มาทีหลังแม้จะมาแรง.... 
 แล้วคำนวณยังไง.........?
ขี้สงสัย...มันก็คำนวณง่ายๆ โดยใช้เครื่องคิดเลขทางการเงิน .....?
แล้วต้องเรียนจากไหน......? ผมสอนให้ครับ ผมสอนได้จนเอาไปสร้างเป็นโปรแกรมคำนวณ สำเร็จรูปออกมาในโปรแกรม wealhplus ครับ 
                         สรุปคือ   ออมก่อน  รวยกว่า 

วันนี้ท่านได้เรียนรู้สาระสำคัญว่า ทำไมต้องมีที่ปรึกษาการเงิน
เป็นไงบ้างครับคุ้มสุดคุ้ม กับบทเรียนฟรี
ถ้าชอบกรุณากดไลค์ หรือ G+ 
พรุ่งนี้ท่านจะได้พบกับการคำนวณ มูลค่าเงินตามเวลา และเครื่องคำนวณเลขทางการเงิน รับรองว่า ที่ปรึกษาการเงินของท่าน ใกล้จะเป็นจริงแล้ว
 พลาดไม่ได้
พลาดแล้ว พลาดเลย
แด่ความสำเร็จของคุณ
จาก ชยพล ฐิติศุภสิน
เตรียมพร้อมที่จะเป็นโค๊ชให้คุณ
โทร 081-2092371
email : 42group.ct@gmail.com